บทที่ 2: พีชคณิต (Algebra)

🔢 บทที่ 2: พีชคณิต (Algebra)

พีชคณิตคือภาษาของคณิตศาสตร์ที่ใช้สัญลักษณ์แทนจำนวน
เรียนรู้การใช้ตัวแปร สมการ และการแก้ปัญหาเชิงพีชคณิต

📚 สารบัญเนื้อหา

  • 1. พื้นฐานพีชคณิต
    • ตัวแปร พจน์ นิพจน์
    • ค่าคงที่และสัมประสิทธิ์
    • การแทนค่าตัวแปร
  • 2. การดำเนินการพีชคณิต
    • บวก ลบ พจน์ที่เหมือนกัน
    • คูณ หาร นิพจน์
    • กฎการแจกแจง
  • 3. สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
    • รูปแบบสมการ ax + b = c
    • วิธีแก้สมการ
    • การตรวจสอบคำตอบ
  • 4. การแยกตัวประกอบ
    • การหาตัวประกอบร่วม
    • กำลังสองสมบูรณ์
    • ผลต่างกำลังสอง
  • 5. สมการกำลังสอง
    • รูปแบบ ax² + bx + c = 0
    • สูตรหาคำตอบ
    • การแยกตัวประกอบ
  • 6. ระบบสมการเชิงเส้น
    • สมการ 2 ตัวแปร
    • วิธีแทนค่า
    • วิธีกำจัดตัวแปร

⏱️ เวลาเรียน: 120 นาที | 📝 แบบฝึกหัด: 40 ข้อ | 💯 ข้อสอบจำลอง: 60 ข้อ


📐 ส่วนที่ 1: พื้นฐานพีชคณิต

พีชคณิต (Algebra) คือ สาขาคณิตศาสตร์ที่ใช้สัญลักษณ์ (ตัวอักษร) แทนจำนวนที่ไม่ทราบค่า เพื่อแสดงความสัมพันธ์และแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์อย่างเป็นระบบ

1.1 องค์ประกอบพื้นฐานของพีชคณิต

เริ่มต้นเรียนรู้ส่วนประกอบต่างๆ ของพีชคณิต ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญก่อนเรียนเรื่องอื่นๆ

🔵 ตัวแปร (Variable)

สัญลักษณ์ที่ใช้แทนจำนวนที่ไม่ทราบค่า มักใช้ตัวอักษร เช่น x, y, z, a, b

ตัวอย่าง: x, y, z, a, b

💡 ตัวแปรสามารถแทนค่าต่างๆ ได้ตามโจทย์

🟢 ค่าคงที่ (Constant)

ตัวเลขที่มีค่าแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง เช่น 1, 2, 3, -5, 0.5

ตัวอย่าง: 5, -3, 7, 0, \frac{1}{2}

💡 ค่าคงที่ไม่มีตัวแปรติดอยู่

🟡 พจน์ (Term)

ส่วนประกอบของนิพจน์ที่คั่นด้วยเครื่องหมาย + หรือ −

ตัวอย่าง: ใน 3x + 5y - 2

มี 3 พจน์: 3x, 5y, -2

🟣 สัมประสิทธิ์ (Coefficient)

ตัวเลขที่คูณกับตัวแปร

ตัวอย่าง: ใน 5x

สัมประสิทธิ์คือ 5

1.2 นิพจน์พีชคณิต (Algebraic Expression)

นิพจน์พีชคณิตคือ การรวมกันของตัวเลข ตัวแปร และเครื่องหมายดำเนินการ (+, −, ×, ÷)

📌 ประเภทของนิพจน์

ประเภท คำอธิบาย ตัวอย่าง
พจน์เดี่ยว (Monomial) มี 1 พจน์ 5x, -3y^2, 7
ทวิพจน์ (Binomial) มี 2 พจน์ 3x + 5, 2a - 7b
ตรีพจน์ (Trinomial) มี 3 พจน์ x^2 + 5x + 6
พหุพจน์ (Polynomial) มีหลายพจน์ 2x^3 + 3x^2 - 5x + 1

1.3 พจน์ที่เหมือนกัน (Like Terms)

พจน์ที่เหมือนกันคือพจน์ที่มีตัวแปรและเลขชี้กำลังเหมือนกัน (สัมประสิทธิ์ต่างกันได้)

✅ พจน์ที่เหมือนกัน

  • 3x และ 5x
  • 2x^2 และ -7x^2
  • 4xy และ 9xy
  • 6 และ -2

💡 บวกลบกันได้

❌ พจน์ที่ต่างกัน

  • 3x และ 5y
  • 2x และ 2x^2
  • 4xy และ 4x
  • 5a และ 3b

⚠️ บวกลบกันไม่ได้

1.4 การรวมพจน์ที่เหมือนกัน

การรวมพจน์ที่เหมือนกันทำได้โดยนำสัมประสิทธิ์มาบวกหรือลบกัน แล้วเขียนตัวแปรตามไป

📐 สูตรการรวมพจน์

ax + bx = (a+b)x

นำสัมประสิทธิ์มาบวกกัน แล้วตามด้วยตัวแปร

✏️ ตัวอย่างที่ 1: รวมพจน์เดียว
5x + 3x = (5+3)x = 8x
✏️ ตัวอย่างที่ 2: รวมหลายพจน์
7y - 2y + 4y = (7-2+4)y = 9y
✏️ ตัวอย่างที่ 3: รวมนิพจน์ผสม
3x + 5y + 2x - y = (3x + 2x) + (5y - y) = 5x + 4y

1.5 การแทนค่าในนิพจน์

การแทนค่าคือการนำค่าของตัวแปรที่กำหนดมาแทนในนิพจน์ แล้วคำนวณหาผลลัพธ์

📝 ขั้นตอนการแทนค่า

  1. เขียนนิพจน์ที่ต้องการ
  2. แทนค่าตัวแปรที่กำหนดให้
  3. คำนวณตามลำดับขั้น (เลขยกกำลัง → คูณหาร → บวกลบ)
  4. หาคำตอบ
✏️ ตัวอย่างที่ 1: แทนค่าตัวแปรเดียว

หาค่าของ 3x + 5 เมื่อ x = 4

วิธีทำ:

3x + 5 = 3(4) + 5 = 12 + 5 = 17
✏️ ตัวอย่างที่ 2: แทนค่าหลายตัวแปร

หาค่าของ 2x + 3y - 4 เมื่อ x = 5 และ y = 2

วิธีทำ:

2x + 3y - 4 = 2(5) + 3(2) - 4 = 10 + 6 - 4 = 12
✏️ ตัวอย่างที่ 3: แทนค่ามีเลขยกกำลัง

หาค่าของ x^2 - 2x + 1 เมื่อ x = 3

วิธีทำ:

x^2 - 2x + 1 = (3)^2 - 2(3) + 1 = 9 - 6 + 1 = 4

✍️ แบบฝึกหัดท้ายบท

ทดสอบความเข้าใจด้วยโจทย์เหล่านี้ พร้อมเฉลยละเอียด

📌 ข้อ 1: จงรวมพจน์ที่เหมือนกัน: 5x + 3y + 2x - y

เฉลย:

  1. แยกพจน์ที่เหมือนกัน: (5x + 2x) + (3y - y)
  2. บวกสัมประสิทธิ์: 7x + 2y

✅ ตอบ: 7x + 2y

📌 ข้อ 2: หาค่าของ 4x - 7 เมื่อ x = 5

เฉลย:

  1. แทนค่า x = 5
  2. 4(5) - 7 = 20 - 7 = 13

✅ ตอบ: 13

📌 ข้อ 3: จงรวมพจน์: 8a - 3a + 5a - 2a

เฉลย:

  1. นำสัมประสิทธิ์มาบวกลบ: 8 - 3 + 5 - 2 = 8
  2. เขียนตามด้วยตัวแปร: 8a

✅ ตอบ: 8a

📌 ข้อ 4: หาค่าของ x^2 + 3x - 5 เมื่อ x = 2

เฉลย:

  1. แทนค่า x = 2
  2. (2)^2 + 3(2) - 5
  3. = 4 + 6 - 5 = 5

✅ ตอบ: 5

📌 ข้อ 5: หาค่าของ 2a + 3b เมื่อ a = 4 และ b = -2

เฉลย:

  1. แทนค่า a = 4 และ b = -2
  2. 2(4) + 3(-2)
  3. = 8 - 6 = 2

✅ ตอบ: 2

📌 ข้อ 6: จงรวมและเรียงลำดับ: 3x^2 + 5x - 2x^2 + 7 - 3x

เฉลย:

  1. แยกพจน์ตามชนิด: (3x^2 - 2x^2) + (5x - 3x) + 7
  2. รวมพจน์เหมือนกัน: x^2 + 2x + 7
  3. เรียงตามเลขชี้กำลังสูงไปต่ำ

✅ ตอบ: x^2 + 2x + 7


📊 สรุปส่วนที่ 1

✅ ความรู้สำคัญที่ต้องจำ

  • ตัวแปร: สัญลักษณ์แทนจำนวนที่ไม่ทราบค่า
  • ค่าคงที่: ตัวเลขที่มีค่าแน่นอน
  • พจน์: ส่วนประกอบของนิพจน์
  • สัมประสิทธิ์: ตัวเลขหน้าตัวแปร
  • พจน์เหมือนกัน: ตัวแปรและเลขชี้กำลังเหมือนกัน
  • การรวมพจน์: บวกลบสัมประสิทธิ์
  • การแทนค่า: แทนตัวแปรด้วยตัวเลขที่กำหนด
  • ลำดับการคำนวณ: เลขยกกำลัง → คูณหาร → บวกลบ

💡 เทคนิคจำง่าย

  • พจน์เหมือนกัน: ต้องมีตัวแปรเหมือนทุกอย่าง (ชนิดและเลขชี้กำลัง)
  • รวมพจน์: บวกลบแค่ตัวเลขหน้า (สัมประสิทธิ์) ตัวแปรไม่เปลี่ยน
  • แทนค่า: ใส่วงเล็บทุกครั้งก่อนคำนวณ เช่น 3(2) ไม่ใช่ 32
  • เครื่องหมาย: ระวังเครื่องหมาย − หน้าพจน์ ต้องคูณทั้งหมด
  • ตัวแปร 1: x = 1x (สัมประสิทธิ์เป็น 1)
  • ตัวแปรไม่เหมือน: 3x + 5y รวมไม่ได้ ต้องเขียนแยก
  • ลำดับขั้น: ทำเลขยกกำลังก่อนเสมอ แล้วค่อยคูณหาร

🎯 ขั้นต่อไป

คุณได้เรียนรู้พื้นฐานพีชคณิตเรียบร้อยแล้ว
พร้อมสำหรับส่วนที่ 2: การดำเนินการพีชคณิต


📚 ส่วนถัดไป: การดำเนินการพีชคณิต – บวก ลบ คูณ หาร นิพจน์

🔢 บทที่ 2: พีชคณิต (Algebra)

ส่วนที่ 2: การดำเนินการพีชคณิต
เรียนรู้การบวก ลบ คูณ หาร นิพจน์พีชคณิตและกฎการแจกแจง


➕ ส่วนที่ 2: การดำเนินการพีชคณิต

การดำเนินการพีชคณิตเป็นทักษะสำคัญในการแก้สมการและจัดการกับนิพจน์ต่างๆ เราจะเรียนรู้วิธีการบวก ลบ คูณ และหารนิพจน์พีชคณิตอย่างถูกต้อง

2.1 การบวกและลบนิพจน์พีชคณิต

การบวกและลบนิพจน์พีชคณิตทำได้โดยการรวมพจน์ที่เหมือนกัน และเขียนพจน์ที่ต่างกันไว้ด้วยกัน

📐 กฎการบวกลบ

  1. เอาวงเล็บออก (ถ้ามี) โดยคูณเครื่องหมายเข้าไป
  2. จัดกลุ่มพจน์เหมือนกัน ไว้ด้วยกัน
  3. รวมพจน์เหมือนกัน โดยบวกลบสัมประสิทธิ์
  4. เขียนคำตอบ โดยเรียงตามเลขชี้กำลัง
✏️ ตัวอย่างที่ 1: บวกนิพจน์ง่ายๆ

จงบวก (3x + 5) + (2x + 7)

วิธีทำ:

  1. เอาวงเล็บออก: 3x + 5 + 2x + 7
  2. จัดกลุ่มพจน์เหมือนกัน: (3x + 2x) + (5 + 7)
  3. รวมพจน์: 5x + 12

✅ คำตอบ: 5x + 12

✏️ ตัวอย่างที่ 2: ลบนิพจน์ (ระวังเครื่องหมาย)

จงลบ (5x + 3) - (2x - 4)

วิธีทำ:

  1. เอาวงเล็บออก (เครื่องหมาย − หน้าวงเล็บจะกลับเครื่องหมายทุกพจน์):
  2. 5x + 3 - 2x + 4
  3. จัดกลุ่มพจน์เหมือนกัน: (5x - 2x) + (3 + 4)
  4. รวมพจน์: 3x + 7

✅ คำตอบ: 3x + 7

✏️ ตัวอย่างที่ 3: หลายตัวแปร

จงคำนวณ (4x + 3y - 2) + (x - 5y + 7)

วิธีทำ:

  1. เอาวงเล็บออก: 4x + 3y - 2 + x - 5y + 7
  2. จัดกลุ่ม: (4x + x) + (3y - 5y) + (-2 + 7)
  3. รวมพจน์: 5x - 2y + 5

✅ คำตอบ: 5x - 2y + 5

⚠️ ข้อควรระวัง

  • เครื่องหมาย หน้าวงเล็บจะกลับเครื่องหมายทุกพจน์ในวงเล็บ
  • -(3x - 5) = -3x + 5 ❌ไม่ใช่ -3x - 5
  • เครื่องหมาย + หน้าวงเล็บไม่เปลี่ยนเครื่องหมาย
  • +(2x + 7) = 2x + 7

2.2 การคูณนิพจน์พีชคณิต

การคูณนิพจน์พีชคณิตมีหลายรูปแบบ ตั้งแต่การคูณง่ายๆ ไปจนถึงการคูณพหุพจน์

🔵 คูณค่าคงที่กับนิพจน์

คูณค่าคงที่เข้าไปในทุกพจน์

a(b + c) = ab + ac

ตัวอย่าง:

3(2x + 5) = 6x + 15

🟢 คูณพจน์เดี่ยวกับพจน์เดี่ยว

คูณสัมประสิทธิ์ แล้วรวมเลขชี้กำลัง

x^a \cdot x^b = x^{a+b}

ตัวอย่าง:

3x^2 \cdot 4x^3 = 12x^5

📌 ตัวอย่างการคูณ

✏️ ตัวอย่างที่ 1: คูณค่าคงที่

คำนวณ 5(3x - 4)

วิธีทำ:

  1. คูณ 5 เข้าไปในทุกพจน์: 5 \cdot 3x - 5 \cdot 4
  2. คำนวณ: 15x - 20
✏️ ตัวอย่างที่ 2: คูณตัวแปรกับนิพจน์

คำนวณ 2x(3x + 5)

วิธีทำ:

  1. คูณ 2x เข้าไปในทุกพจน์: 2x \cdot 3x + 2x \cdot 5
  2. คำนวณ: 6x^2 + 10x
✏️ ตัวอย่างที่ 3: คูณเครื่องหมายลบ

คำนวณ -3(2x - 5y + 4)

วิธีทำ:

  1. คูณ -3 เข้าไปทุกพจน์: -3 \cdot 2x + (-3) \cdot (-5y) + (-3) \cdot 4
  2. คำนวณ: -6x + 15y - 12

2.3 กฎการแจกแจง (Distributive Property)

กฎการแจกแจงเป็นหลักการสำคัญในพีชคณิต ใช้ในการคูณนิพจน์และการแยกตัวประกอบ

📐 สูตรกฎการแจกแจง

a(b + c) = ab + ac

ตัวนำหน้าวงเล็บคูณกับทุกพจน์ในวงเล็บ

📚 รูปแบบต่างๆ ของกฎการแจกแจง

รูปแบบ สูตร ตัวอย่าง
บวก a(b + c) = ab + ac 2(x + 3) = 2x + 6
ลบ a(b - c) = ab - ac 3(x - 5) = 3x - 15
ผสม a(b + c - d) = ab + ac - ad 2(x + 3 - y) = 2x + 6 - 2y
ลบหน้า -a(b + c) = -ab - ac -2(x + 4) = -2x - 8

2.4 การคูณทวิพจน์กับทวิพจน์

การคูณทวิพจน์สองตัวใช้หลักการแจกแจง โดยนำพจน์แรกของทวิพจน์แรกคูณกับทุกพจน์ของทวิพจน์ที่สอง แล้วทำเช่นเดียวกันกับพจน์ที่สอง

📐 วิธี FOIL (First, Outer, Inner, Last)

(a + b)(c + d) = ac + ad + bc + bd

  • First: พจน์แรกของแต่ละวงเล็บ a \cdot c
  • Outer: พจน์นอกสุด a \cdot d
  • Inner: พจน์ในสุด b \cdot c
  • Last: พจน์สุดท้ายของแต่ละวงเล็บ b \cdot d
✏️ ตัวอย่างที่ 1: คูณทวิพจน์

คำนวณ (x + 3)(x + 5)

วิธีทำ (FOIL):

  1. First: x \cdot x = x^2
  2. Outer: x \cdot 5 = 5x
  3. Inner: 3 \cdot x = 3x
  4. Last: 3 \cdot 5 = 15
  5. รวมพจน์: x^2 + 5x + 3x + 15 = x^2 + 8x + 15
✏️ ตัวอย่างที่ 2: คูณมีเครื่องหมายลบ

คำนวณ (2x - 3)(x + 4)

วิธีทำ:

  1. F: 2x \cdot x = 2x^2
  2. O: 2x \cdot 4 = 8x
  3. I: -3 \cdot x = -3x
  4. L: -3 \cdot 4 = -12
  5. รวมพจน์: 2x^2 + 8x - 3x - 12 = 2x^2 + 5x - 12
✏️ ตัวอย่างที่ 3: คูณทั้งสองลบ

คำนวณ (x - 2)(x - 5)

วิธีทำ:

  1. F: x \cdot x = x^2
  2. O: x \cdot (-5) = -5x
  3. I: -2 \cdot x = -2x
  4. L: -2 \cdot (-5) = 10
  5. รวมพจน์: x^2 - 5x - 2x + 10 = x^2 - 7x + 10

2.5 สูตรพิเศษที่ควรจำ

มีสูตรพิเศษบางสูตรที่ช่วยคำนวณได้รวดเร็ว ควรท่องจำไว้

✨ กำลังสองของผลบวก

(a + b)^2 = a^2 + 2ab + b^2

ตัวอย่าง:

(x + 3)^2 = x^2 + 6x + 9

✨ กำลังสองของผลต่าง

(a - b)^2 = a^2 - 2ab + b^2

ตัวอย่าง:

(x - 4)^2 = x^2 - 8x + 16

✨ ผลต่างของกำลังสอง

(a + b)(a - b) = a^2 - b^2

ตัวอย่าง:

(x + 5)(x - 5) = x^2 - 25

✍️ แบบฝึกหัดท้ายบท

ฝึกฝนทักษะการดำเนินการพีชคณิตด้วยโจทย์หลากหลายรูปแบบ

📌 ข้อ 1: จงคำนวณ (7x + 4) - (3x - 5)

เฉลย:

  1. เอาวงเล็บออก: 7x + 4 - 3x + 5
  2. จัดกลุ่ม: (7x - 3x) + (4 + 5)
  3. รวมพจน์: 4x + 9

✅ ตอบ: 4x + 9

📌 ข้อ 2: จงคำนวณ 4(2x - 3)

เฉลย:

  1. ใช้กฎการแจกแจง: 4 \cdot 2x - 4 \cdot 3
  2. คำนวณ: 8x - 12

✅ ตอบ: 8x - 12

📌 ข้อ 3: จงคำนวณ 3x(2x - 5)

เฉลย:

  1. ใช้กฎการแจกแจง: 3x \cdot 2x - 3x \cdot 5
  2. คำนวณ: 6x^2 - 15x

✅ ตอบ: 6x^2 - 15x

📌 ข้อ 4: จงคำนวณ (x + 4)(x + 2)

เฉลย:

  1. ใช้ FOIL:
    • F: x \cdot x = x^2
    • O: x \cdot 2 = 2x
    • I: 4 \cdot x = 4x
    • L: 4 \cdot 2 = 8
  2. รวมพจน์: x^2 + 2x + 4x + 8 = x^2 + 6x + 8

✅ ตอบ: x^2 + 6x + 8

📌 ข้อ 5: จงคำนวณ (2x - 1)(x + 3)

เฉลย:

  1. ใช้ FOIL:
    • F: 2x \cdot x = 2x^2
    • O: 2x \cdot 3 = 6x
    • I: -1 \cdot x = -x
    • L: -1 \cdot 3 = -3
  2. รวมพจน์: 2x^2 + 6x - x - 3 = 2x^2 + 5x - 3

✅ ตอบ: 2x^2 + 5x - 3

📌 ข้อ 6: จงคำนวณ (x + 6)(x - 6)

เฉลย:

  1. ใช้สูตรผลต่างกำลังสอง: (a + b)(a - b) = a^2 - b^2
  2. x^2 - 6^2 = x^2 - 36

✅ ตอบ: x^2 - 36

📌 ข้อ 7: จงคำนวณ (x + 3)^2

เฉลย:

  1. ใช้สูตร (a + b)^2 = a^2 + 2ab + b^2
  2. x^2 + 2(x)(3) + 3^2
  3. x^2 + 6x + 9

✅ ตอบ: x^2 + 6x + 9

📌 ข้อ 8: จงคำนวณ -2(3x - 4y + 5)

เฉลย:

  1. ใช้กฎการแจกแจง คูณ -2 เข้าทุกพจน์:
  2. -2 \cdot 3x + (-2) \cdot (-4y) + (-2) \cdot 5
  3. -6x + 8y - 10

✅ ตอบ: -6x + 8y - 10


📊 สรุปส่วนที่ 2

✅ ความรู้สำคัญที่ต้องจำ

  • บวกลบนิพจน์: รวมพจน์ที่เหมือนกัน
  • − หน้าวงเล็บ: กลับเครื่องหมายทุกพจน์
  • การคูณ: ใช้กฎการแจกแจง
  • FOIL: First, Outer, Inner, Last
  • (a+b)^2: a^2 + 2ab + b^2
  • (a-b)^2: a^2 - 2ab + b^2
  • (a+b)(a-b): a^2 - b^2
  • เลขชี้กำลัง: x^a \cdot x^b = x^{a+b}

💡 เทคนิคสำคัญ

  • เครื่องหมายลบ: -(3x - 5) = -3x + 5 ไม่ใช่ -3x - 5
  • การคูณ: อย่าลืมคูณทุกพจน์ ในวงเล็บ
  • FOIL: ใช้กับทวิพจน์ × ทวิพจน์ เท่านั้น
  • สูตรพิเศษ: ท่องจำไว้ทำได้เร็วกว่าคูณยาวๆ
  • ตรวจสอบ: ดูจำนวนพจน์ (a+b)(c+d) ควรได้ 4 พจน์
  • รวมพจน์: หลังคูณแล้วต้องรวมพจน์เหมือนกันทุกครั้ง
  • เรียงลำดับ: เขียนคำตอบจาก x^2 \rightarrow x \rightarrow ค่าคงที่

🎯 ขั้นต่อไป

เยี่ยมมาก! คุณได้เรียนรู้การดำเนินการพีชคณิตแล้ว
พร้อมสำหรับส่วนที่ 3: สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว


📚 ส่วนถัดไป: สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว – วิธีแก้และการตรวจสอบคำตอบ

🔢 บทที่ 2: พีชคณิต (Algebra)

ส่วนที่ 3: สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
เรียนรู้การแก้สมการและตรวจสอบคำตอบอย่างเป็นระบบ


🎯 ส่วนที่ 3: สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว

สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว (Linear Equation in One Variable) คือสมการที่มีตัวแปรเพียงตัวเดียว และตัวแปรนั้นมีเลขชี้กำลังเป็น 1 เป็นสมการพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในพีชคณิต

3.1 ความหมายของสมการ

สมการคือประโยคทางคณิตศาสตร์ที่แสดงความเท่ากันระหว่างสองนิพจน์ โดยมีเครื่องหมาย = คั่นกลาง

🔵 ส่วนประกอบของสมการ

2x + 5 = 13

  • สมาชิกซ้าย: 2x + 5
  • เครื่องหมายเท่ากับ: =
  • สมาชิกขวา: 13
  • คำตอบ/ราก: ค่า x ที่ทำให้สมการเป็นจริง

🟢 รูปแบบมาตรฐาน

ax + b = c

โดยที่:

  • a = สัมประสิทธิ์ของ x
  • b = ค่าคงที่
  • c = ค่าคงที่ทางขวา
  • a \neq 0

3.2 หลักการแก้สมการเชิงเส้น

การแก้สมการเชิงเส้นมีเป้าหมายเพื่อหาค่าของตัวแปร โดยใช้หลักการที่ว่า “สิ่งที่ทำกับสมาชิกซ้าย ต้องทำกับสมาชิกขวาเสมอ”

📐 หลักการสำคัญ 4 ข้อ

หลักการ กฎ ตัวอย่าง
1. บวกทั้งสองข้าง ถ้า a = b แล้ว a + c = b + c x - 3 = 5
x - 3 + 3 = 5 + 3
x = 8
2. ลบทั้งสองข้าง ถ้า a = b แล้ว a - c = b - c x + 7 = 12
x + 7 - 7 = 12 - 7
x = 5
3. คูณทั้งสองข้าง ถ้า a = b แล้ว ac = bc \frac{x}{4} = 3
\frac{x}{4} \times 4 = 3 \times 4
x = 12
4. หารทั้งสองข้าง ถ้า a = b แล้ว \frac{a}{c} = \frac{b}{c} (c \neq 0) 5x = 20
\frac{5x}{5} = \frac{20}{5}
x = 4

3.3 ขั้นตอนการแก้สมการ

ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อแก้สมการอย่างเป็นระบบ

📝 ขั้นตอนการแก้สมการ (6 ขั้นตอน)

  1. เอาวงเล็บออก (ถ้ามี) โดยใช้กฎการแจกแจง
  2. รวมพจน์ที่เหมือนกัน ในแต่ละข้างของสมการ
  3. ย้ายพจน์ที่มีตัวแปร ไปอยู่ข้างเดียวกัน (มักเป็นซ้าย)
  4. ย้ายค่าคงที่ ไปอีกข้างหนึ่ง (มักเป็นขวา)
  5. หารหรือคูณ เพื่อให้ตัวแปรเหลือเพียงตัวเดียว
  6. ตรวจสอบคำตอบ โดยแทนค่ากลับเข้าไปในสมการเดิม

3.4 ตัวอย่างการแก้สมการ

เรียนรู้จากตัวอย่างที่หลากหลายตั้งแต่ง่ายไปยาก

✏️ ตัวอย่างที่ 1: สมการง่าย (1 ขั้นตอน)

โจทย์: แก้สมการ x + 5 = 12

วิธีทำ:

  1. ลบ 5 ทั้งสองข้าง: x + 5 - 5 = 12 - 5
  2. ได้ x = 7

ตรวจสอบ: แทน x = 7 ใน x + 5 = 12

7 + 5 = 12ถูกต้อง

✅ คำตอบ: x = 7

✏️ ตัวอย่างที่ 2: สมการปานกลาง (2 ขั้นตอน)

โจทย์: แก้สมการ 3x - 7 = 14

วิธีทำ:

  1. บวก 7 ทั้งสองข้าง: 3x - 7 + 7 = 14 + 7
  2. ได้ 3x = 21
  3. หารทั้งสองข้างด้วย 3: \frac{3x}{3} = \frac{21}{3}
  4. ได้ x = 7

ตรวจสอบ: แทน x = 7 ใน 3x - 7 = 14

3(7) - 7 = 21 - 7 = 14ถูกต้อง

✅ คำตอบ: x = 7

✏️ ตัวอย่างที่ 3: สมการมีตัวแปรทั้งสองข้าง

โจทย์: แก้สมการ 5x - 3 = 2x + 9

วิธีทำ:

  1. ลบ 2x ทั้งสองข้าง: 5x - 2x - 3 = 2x - 2x + 9
  2. ได้ 3x - 3 = 9
  3. บวก 3 ทั้งสองข้าง: 3x - 3 + 3 = 9 + 3
  4. ได้ 3x = 12
  5. หารด้วย 3: x = 4

ตรวจสอบ: แทน x = 4 ใน 5x - 3 = 2x + 9

ซ้าย: 5(4) - 3 = 20 - 3 = 17

ขวา: 2(4) + 9 = 8 + 9 = 17ถูกต้อง

✅ คำตอบ: x = 4

✏️ ตัวอย่างที่ 4: สมการมีวงเล็บ

โจทย์: แก้สมการ 2(x + 3) = 16

วิธีทำ:

  1. เอาวงเล็บออก: 2x + 6 = 16
  2. ลบ 6 ทั้งสองข้าง: 2x = 10
  3. หารด้วย 2: x = 5

ตรวจสอบ: แทน x = 5 ใน 2(x + 3) = 16

2(5 + 3) = 2(8) = 16ถูกต้อง

✅ คำตอบ: x = 5

✏️ ตัวอย่างที่ 5: สมการซับซ้อน

โจทย์: แก้สมการ 3(2x - 1) - 2(x + 4) = 7

วิธีทำ:

  1. เอาวงเล็บออก: 6x - 3 - 2x - 8 = 7
  2. รวมพจน์เหมือนกัน: 4x - 11 = 7
  3. บวก 11 ทั้งสองข้าง: 4x = 18
  4. หารด้วย 4: x = \frac{18}{4} = \frac{9}{2} = 4.5

ตรวจสอบ: แทน x = 4.5 ใน 3(2x - 1) - 2(x + 4) = 7

3(2(4.5) - 1) - 2(4.5 + 4)

= 3(9 - 1) - 2(8.5) = 3(8) - 17 = 24 - 17 = 7ถูกต้อง

✅ คำตอบ: x = \frac{9}{2} หรือ 4.5

3.5 กรณีพิเศษของสมการ

บางครั้งสมการอาจมีลักษณะพิเศษที่ต้องระวัง

✅ มีคำตอบเพียงหนึ่งเดียว

สมการปกติทั่วไป

ตัวอย่าง: 2x + 3 = 7

คำตอบ: x = 2

♾️ มีคำตอบไม่จำกัด

สมการที่เป็นจริงทุกค่า x

ตัวอย่าง: 3x + 5 = 3x + 5

คำตอบ: ทุกค่า x

❌ ไม่มีคำตอบ

สมการที่ขัดแย้งกัน

ตัวอย่าง: 2x + 3 = 2x + 7

ได้ 3 = 7 เท็จ

⚠️ ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย

  • ลืมเปลี่ยนเครื่องหมาย เมื่อย้ายพจน์ข้ามเครื่องหมาย =
  • ลืมคูณหรือหารทั้งสองข้าง เมื่อมีสัมประสิทธิ์หน้า x
  • เอาวงเล็บออกผิด โดยเฉพาะเมื่อมีเครื่องหมาย −
  • ไม่ตรวจสอบคำตอบ ทำให้มั่นใจผิดพลาด
  • หารด้วยศูนย์ ต้องระวังว่า x \neq 0

✍️ แบบฝึกหัดท้ายบท

ฝึกแก้สมการเชิงเส้นจากง่ายไปยาก พร้อมเฉลยละเอียดทุกขั้นตอน

📌 ข้อ 1: แก้สมการ x - 8 = 15

เฉลย:

  1. บวก 8 ทั้งสองข้าง: x - 8 + 8 = 15 + 8
  2. ได้ x = 23
  3. ตรวจสอบ: 23 - 8 = 15

✅ ตอบ: x = 23

📌 ข้อ 2: แก้สมการ 4x = 28

เฉลย:

  1. หารทั้งสองข้างด้วย 4: \frac{4x}{4} = \frac{28}{4}
  2. ได้ x = 7
  3. ตรวจสอบ: 4(7) = 28

✅ ตอบ: x = 7

📌 ข้อ 3: แก้สมการ 2x + 5 = 17

เฉลย:

  1. ลบ 5 ทั้งสองข้าง: 2x = 12
  2. หารด้วย 2: x = 6
  3. ตรวจสอบ: 2(6) + 5 = 12 + 5 = 17

✅ ตอบ: x = 6

📌 ข้อ 4: แก้สมการ 7x - 4 = 3x + 12

เฉลย:

  1. ลบ 3x ทั้งสองข้าง: 4x - 4 = 12
  2. บวก 4 ทั้งสองข้าง: 4x = 16
  3. หารด้วย 4: x = 4
  4. ตรวจสอบ: ซ้าย 7(4)-4=24, ขวา 3(4)+12=24

✅ ตอบ: x = 4

📌 ข้อ 5: แก้สมการ 3(x - 2) = 18

เฉลย:

  1. เอาวงเล็บออก: 3x - 6 = 18
  2. บวก 6 ทั้งสองข้าง: 3x = 24
  3. หารด้วย 3: x = 8
  4. ตรวจสอบ: 3(8-2) = 3(6) = 18

✅ ตอบ: x = 8

📌 ข้อ 6: แก้สมการ 5(x + 2) - 3x = 22

เฉลย:

  1. เอาวงเล็บออก: 5x + 10 - 3x = 22
  2. รวมพจน์: 2x + 10 = 22
  3. ลบ 10: 2x = 12
  4. หารด้วย 2: x = 6
  5. ตรวจสอบ: 5(6+2)-3(6)=5(8)-18=40-18=22

✅ ตอบ: x = 6

📌 ข้อ 7: แก้สมการ \frac{x}{3} + 5 = 9

เฉลย:

  1. ลบ 5 ทั้งสองข้าง: \frac{x}{3} = 4
  2. คูณทั้งสองข้างด้วย 3: x = 12
  3. ตรวจสอบ: \frac{12}{3} + 5 = 4 + 5 = 9

✅ ตอบ: x = 12

📌 ข้อ 8: แก้สมการ 4(x - 1) + 3 = 2(x + 5) - 1

เฉลย:

  1. เอาวงเล็บออก: 4x - 4 + 3 = 2x + 10 - 1
  2. รวมพจน์: 4x - 1 = 2x + 9
  3. ลบ 2x: 2x - 1 = 9
  4. บวก 1: 2x = 10
  5. หารด้วย 2: x = 5
  6. ตรวจสอบ: ซ้าย 4(4)+3=19, ขวา 2(10)-1=19

✅ ตอบ: x = 5


📊 สรุปส่วนที่ 3

✅ ความรู้สำคัญที่ต้องจำ

  • รูปแบบ: ax + b = c
  • เป้าหมาย: หาค่า x
  • หลักการ: ทำอะไรข้างหนึ่ง ต้องทำอีกข้าง
  • ขั้นตอน: เอาวงเล็บออก → รวมพจน์ → ย้าย x → หาร
  • ตรวจสอบ: แทนค่ากลับเข้าไปเสมอ
  • กรณีพิเศษ: อาจมีคำตอบ 1, ∞ หรือ 0
  • ระวัง: เครื่องหมาย − และวงเล็บ
  • เคล็ดลับ: ทำทีละขั้นตอน อย่าเร็วเกินไป

💡 เทคนิคแก้สมการให้รวดเร็ว

  • เป้าหมายชัดเจน: ต้องการ x = ... ฝั่งซ้าย ตัวเลขฝั่งขวา
  • ย้ายอย่างระมัดระวัง: ข้ามเครื่องหมาย = ต้องเปลี่ยนเครื่องหมาย
  • ทำตามลำดับ: วงเล็บ → รวมพจน์ → ย้ายตัวแปร → หาร
  • ตรวจทุกครั้ง: แทนค่ากลับไปดู ถูกต้องหรือไม่
  • เขียนเรียบร้อย: เขียนทุกขั้นตอน อย่าข้าม
  • เศษส่วน: คูณข้ามเพื่อกำจัดเศษส่วนก่อน
  • สองฝั่งมี x: รวม x ข้างเดียวกันก่อน
  • วงเล็บซับซ้อน: แจกแจงทีละวงเล็บ ไม่เร่งรีบ

🎯 ขั้นต่อไป

ยอดเยี่ยม! คุณเชี่ยวชาญสมการเชิงเส้นแล้ว
พร้อมสำหรับส่วนที่ 4: การแยกตัวประกอบ


📚 ส่วนถัดไป: การแยกตัวประกอบ – เทคนิคและสูตรพิเศษ

🔢 บทที่ 2: พีชคณิต (Algebra)

ส่วนที่ 4: การแยกตัวประกอบ
เทคนิคการแยกตัวประกอบนิพจน์พีชคณิตและสูตรพิเศษ


🧩 ส่วนที่ 4: การแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบ (Factoring) คือการเขียนนิพจน์พีชคณิตในรูปผลคูณของตัวประกอบที่ง่ายกว่า เป็นทักษะสำคัญที่ใช้ในการแก้สมการกำลังสองและการทำนิพจน์ให้เรียบง่าย

4.1 ความหมายของการแยกตัวประกอบ

การแยกตัวประกอบคือการเขียนนิพจน์ในรูปผลคูณ ตรงข้ามกับการแจกแจง

🔄 ความสัมพันธ์ระหว่างการแจกแจงและการแยกตัวประกอบ

→ การแจกแจง

3(x + 5) = 3x + 15

จากผลคูณ → ไปเป็นผลบวก

← การแยกตัวประกอบ

3x + 15 = 3(x + 5)

จากผลบวก → ไปเป็นผลคูณ

4.2 การหาตัวประกอบร่วม (Common Factor)

วิธีการพื้นฐานที่สุดในการแยกตัวประกอบคือการหาตัวประกอบร่วมออกมาวงเล็บ

📐 ขั้นตอนการหาตัวประกอบร่วม

  1. หา ห.ร.ม. ของสัมประสิทธิ์ทั้งหมด
  2. หาตัวแปรร่วม (เลือกเลขชี้กำลังน้อยสุด)
  3. เอาออกวงเล็บ แล้วหารนิพจน์ด้วยตัวประกอบร่วม
  4. ตรวจสอบ โดยแจกแจงกลับเข้าไป
✏️ ตัวอย่างที่ 1: ตัวประกอบเป็นตัวเลข

แยกตัวประกอบ 6x + 9

วิธีทำ:

  1. หา ห.ร.ม. ของ 6 และ 9 = 3
  2. เอา 3 ออกวงเล็บ: 3(2x + 3)
  3. ตรวจสอบ: 3(2x + 3) = 6x + 9

✅ คำตอบ: 3(2x + 3)

✏️ ตัวอย่างที่ 2: ตัวประกอบเป็นตัวแปร

แยกตัวประกอบ 4x^2 + 2x

วิธีทำ:

  1. ห.ร.ม. ของ 4 และ 2 = 2
  2. ตัวแปรร่วม: x (เลขชี้กำลังน้อยสุดคือ 1)
  3. ตัวประกอบร่วม = 2x
  4. เอาออกวงเล็บ: 2x(2x + 1)
  5. ตรวจสอบ: 2x(2x + 1) = 4x^2 + 2x

✅ คำตอบ: 2x(2x + 1)

✏️ ตัวอย่างที่ 3: หลายพจน์

แยกตัวประกอบ 12x^3 - 18x^2 + 6x

วิธีทำ:

  1. ห.ร.ม. ของ 12, 18, 6 = 6
  2. ตัวแปรร่วม: x
  3. ตัวประกอบร่วม = 6x
  4. 6x(2x^2 - 3x + 1)
  5. ตรวจสอบ: 6x(2x^2 - 3x + 1) = 12x^3 - 18x^2 + 6x

✅ คำตอบ: 6x(2x^2 - 3x + 1)

4.3 การแยกตัวประกอบด้วยการจัดกลุ่ม

เมื่อนิพจน์มี 4 พจน์ เราสามารถจัดกลุ่มพจน์เพื่อหาตัวประกอบร่วมได้

📐 ขั้นตอนการจัดกลุ่ม

  1. แบ่งเป็น 2 กลุ่ม (2 พจน์แรก และ 2 พจน์หลัง)
  2. หาตัวประกอบร่วมของแต่ละกลุ่ม
  3. หาตัวประกอบร่วมระหว่างกลุ่ม (ในวงเล็บต้องเหมือนกัน)
  4. เขียนในรูปผลคูณ
✏️ ตัวอย่าง: การจัดกลุ่ม

แยกตัวประกอบ ax + ay + bx + by

วิธีทำ:

  1. จัดกลุ่ม: (ax + ay) + (bx + by)
  2. หาตัวประกอบร่วมแต่ละกลุ่ม: a(x + y) + b(x + y)
  3. เห็น (x + y) เหมือนกัน เอาออกมา: (x + y)(a + b)

✅ คำตอบ: (x + y)(a + b)

✏️ ตัวอย่างตัวเลข

แยกตัวประกอบ 3x + 3y + 2x + 2y

วิธีทำ:

  1. จัดกลุ่ม: (3x + 3y) + (2x + 2y)
  2. หาตัวประกอบร่วม: 3(x + y) + 2(x + y)
  3. เอา (x + y) ออกมา: (x + y)(3 + 2) = (x + y)(5)

✅ คำตอบ: 5(x + y) หรือ (x + y)(5)

4.4 สูตรพิเศษในการแยกตัวประกอบ

มีสูตรพิเศษที่ช่วยให้แยกตัวประกอบได้รวดเร็ว ควรท่องจำไว้

⭐ สูตรพิเศษ 3 สูตร

1️⃣ ผลต่างกำลังสอง

a^2 - b^2 = (a+b)(a-b)

ตัวอย่าง:

x^2 - 25 = (x+5)(x-5) 4x^2 - 9 = (2x+3)(2x-3)
2️⃣ กำลังสองสมบูรณ์ (+)

a^2 + 2ab + b^2 = (a+b)^2

ตัวอย่าง:

x^2 + 6x + 9 = (x+3)^2 4x^2 + 12x + 9 = (2x+3)^2
3️⃣ กำลังสองสมบูรณ์ (−)

a^2 - 2ab + b^2 = (a-b)^2

ตัวอย่าง:

x^2 - 10x + 25 = (x-5)^2 9x^2 - 6x + 1 = (3x-1)^2

🔍 วิธีจำแนกสูตร

รูปแบบ สังเกต สูตร
a^2 - b^2 มี − และเป็นกำลังสอง 2 พจน์ (a+b)(a-b)
a^2 + 2ab + b^2 3 พจน์ พจน์กลางเป็น +2ab (a+b)^2
a^2 - 2ab + b^2 3 พจน์ พจน์กลางเป็น -2ab (a-b)^2

4.5 การแยกตัวประกอบตรีพจน์ x^2 + bx + c

การแยกตัวประกอบตรีพจน์รูปแบบ x^2 + bx + c เป็นทักษะสำคัญในการแก้สมการกำลังสอง

📐 วิธีการแยก x^2 + bx + c

x^2 + bx + c = (x + m)(x + n)

โดยที่ m + n = b และ m \times n = c

📝 ขั้นตอนการหา m และ n
  1. หาคู่จำนวนที่คูณกันได้ c
  2. เลือกคู่ที่บวกกันได้ b
  3. เขียนในรูป (x + m)(x + n)
✏️ ตัวอย่างที่ 1: ค่า c เป็นบวก

แยกตัวประกอบ x^2 + 7x + 12

วิธีทำ:

  1. หาคู่จำนวนที่คูณกันได้ 12:
    • 1 \times 12 = 121 + 12 = 13
    • 2 \times 6 = 122 + 6 = 8
    • 3 \times 4 = 123 + 4 = 7
  2. ดังนั้น m = 3, n = 4
  3. เขียน: (x + 3)(x + 4)
  4. ตรวจสอบ: (x+3)(x+4) = x^2 + 4x + 3x + 12 = x^2 + 7x + 12

✅ คำตอบ: (x + 3)(x + 4)

✏️ ตัวอย่างที่ 2: ค่า c เป็นลบ

แยกตัวประกอบ x^2 + 2x - 15

วิธีทำ:

  1. หาคู่จำนวนที่คูณกันได้ -15 (ต้องมีเครื่องหมายต่างกัน):
    • 1 \times (-15) = -151 + (-15) = -14
    • 3 \times (-5) = -153 + (-5) = -2
    • 5 \times (-3) = -155 + (-3) = 2
  2. ดังนั้น m = 5, n = -3
  3. เขียน: (x + 5)(x - 3)

✅ คำตอบ: (x + 5)(x - 3)

✏️ ตัวอย่างที่ 3: ค่า b เป็นลบ

แยกตัวประกอบ x^2 - 8x + 15

วิธีทำ:

  1. หาคู่จำนวนที่คูณกันได้ 15 และบวกกันได้ -8:
    • (-1) \times (-15) = 15-1 + (-15) = -16
    • (-3) \times (-5) = 15-3 + (-5) = -8
  2. ดังนั้น m = -3, n = -5
  3. เขียน: (x - 3)(x - 5)

✅ คำตอบ: (x - 3)(x - 5)

💡 เคล็ดลับการหา m และ n

กรณี เครื่องหมาย m, n ตัวอย่าง
b > 0, c > 0 ทั้งคู่เป็นบวก x^2 + 5x + 6 = (x+2)(x+3)
b < 0, c > 0 ทั้งคู่เป็นลบ x^2 - 5x + 6 = (x-2)(x-3)
c < 0[/katex]</td> <td>คนละเครื่องหมาย</td> <td>[katex]x^2 + x - 6 = (x+3)(x-2)

✍️ แบบฝึกหัดท้ายบท

ฝึกแยกตัวประกอบในรูปแบบต่างๆ พร้อมเฉลยละเอียดทุกขั้นตอน

📌 ข้อ 1: แยกตัวประกอบ 8x + 12

เฉลย:

  1. หา ห.ร.ม. ของ 8 และ 12 = 4
  2. เอา 4 ออกวงเล็บ: 4(2x + 3)
  3. ตรวจสอบ: 4(2x + 3) = 8x + 12

✅ ตอบ: 4(2x + 3)

📌 ข้อ 2: แยกตัวประกอบ x^2 - 49

เฉลย:

  1. สังเกตว่าเป็นผลต่างกำลังสอง: x^2 - 7^2
  2. ใช้สูตร a^2 - b^2 = (a+b)(a-b)
  3. ได้ (x + 7)(x - 7)

✅ ตอบ: (x + 7)(x - 7)

📌 ข้อ 3: แยกตัวประกอบ x^2 + 10x + 25

เฉลย:

  1. สังเกตว่าเป็นกำลังสองสมบูรณ์: x^2 + 2(5)(x) + 5^2
  2. ใช้สูตร a^2 + 2ab + b^2 = (a+b)^2
  3. ได้ (x + 5)^2

✅ ตอบ: (x + 5)^2

📌 ข้อ 4: แยกตัวประกอบ x^2 + 9x + 20

เฉลย:

  1. หาคู่จำนวนที่คูณกันได้ 20 และบวกกันได้ 9:
    • 4 \times 5 = 20 และ 4 + 5 = 9
  2. ได้ (x + 4)(x + 5)
  3. ตรวจสอบ: (x+4)(x+5) = x^2 + 9x + 20

✅ ตอบ: (x + 4)(x + 5)

📌 ข้อ 5: แยกตัวประกอบ x^2 - 3x - 18

เฉลย:

  1. หาคู่จำนวนที่คูณกันได้ -18 และบวกกันได้ -3:
    • 6 \times (-3) = -18 และ 6 + (-3) = 3
    • (-6) \times 3 = -18 และ -6 + 3 = -3
  2. ได้ (x - 6)(x + 3)

✅ ตอบ: (x - 6)(x + 3)

📌 ข้อ 6: แยกตัวประกอบ 3x^2 + 6x

เฉลย:

  1. ห.ร.ม. ของสัมประสิทธิ์ = 3
  2. ตัวแปรร่วม = x
  3. ตัวประกอบร่วม = 3x
  4. เอาออกวงเล็บ: 3x(x + 2)

✅ ตอบ: 3x(x + 2)

📌 ข้อ 7: แยกตัวประกอบ 4x^2 - 25

เฉลย:

  1. สังเกตว่าเป็นผลต่างกำลังสอง: (2x)^2 - 5^2
  2. ใช้สูตร a^2 - b^2 = (a+b)(a-b)
  3. ได้ (2x + 5)(2x - 5)

✅ ตอบ: (2x + 5)(2x - 5)

📌 ข้อ 8: แยกตัวประกอบ x^2 - 12x + 36

เฉลย:

  1. สังเกตว่าเป็นกำลังสองสมบูรณ์: x^2 - 2(6)(x) + 6^2
  2. ใช้สูตร a^2 - 2ab + b^2 = (a-b)^2
  3. ได้ (x - 6)^2
  4. ตรวจสอบ: (x-6)^2 = x^2 - 12x + 36

✅ ตอบ: (x - 6)^2


📊 สรุปส่วนที่ 4

✅ ความรู้สำคัญที่ต้องจำ

  • การแยกตัวประกอบ: เขียนในรูปผลคูณ
  • ตัวประกอบร่วม: หา ห.ร.ม. และตัวแปรร่วม
  • การจัดกลุ่ม: แบ่ง 2 กลุ่ม หาตัวประกอบร่วม
  • ผลต่างกำลังสอง: a^2-b^2 = (a+b)(a-b)
  • กำลังสองสมบูรณ์ (+): a^2+2ab+b^2 = (a+b)^2
  • กำลังสองสมบูรณ์ (−): a^2-2ab+b^2 = (a-b)^2
  • ตรีพจน์: หา m, n ที่ m \times n = c และ m + n = b
  • ตรวจสอบ: แจกแจงกลับเข้าไป

💡 เทคนิคแยกตัวประกอบอย่างมีประสิทธิภาพ

  • เริ่มต้นเสมอ: หาตัวประกอบร่วมก่อนเสมอ
  • จำนวนพจน์: 2 พจน์ → ผลต่างกำลังสอง, 3 พจน์ → กำลังสองสมบูรณ์หรือตรีพจน์
  • สูตรพิเศษ: ท่องจำให้ขึ้นใจ ใช้บ่อยมาก
  • ผลต่างกำลังสอง: ต้องมี − เท่านั้น (+ ทำไม่ได้)
  • กำลังสองสมบูรณ์: ตรวจพจน์กลาง ต้องเป็น 2ab
  • หา m, n: ลองคู่จำนวนตั้งแต่เล็กไปใหญ่
  • เครื่องหมาย: c < 0[/katex] → m, n ต่างเครื่องหมาย
  • ตรวจทุกครั้ง: แจกแจงกลับเพื่อตรวจสอบ

🎯 ขั้นต่อไป

สุดยอด! คุณเชี่ยวชาญการแยกตัวประกอบแล้ว
พร้อมสำหรับส่วนที่ 5: สมการกำลังสอง


📚 ส่วนถัดไป: สมการกำลังสอง - การแก้สมการด้วยวิธีต่างๆ

Scroll to Top